1
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีโอกาสนั่งคุยกับพี่ๆ วงนั่งเล่น ศิลปินโปรดที่สุดของผมใน พ.ศ. นี้ จากคำชวนของพี่แก่-สาธิต กาลวันตวานิช จากบทสนทนากับพี่ตุ่น พี่เป๋า และพี่ตู๋ ทำให้เข้าใจว่า เป้าหมายของการทำเพลงของพี่ๆ ในช่วงวัย 'หลังเกษียณ' นั้นไม่ใช่ความสำเร็จ ชื่อเสียง หรือกระทั่งรายได้เหมือนในวัยหนุ่มอีกต่อไป ที่ทำเพราะอยากมีช่วงเวลาดีๆ กับเพื่อนพ้องที่รักกัน และได้อยู่กับสิ่งที่ตัวเองรักอย่างดนตรี
พี่ตุ่น-มือกีตาร์รุ่นเก๋าที่ลุคเหมือนสถาปนิกญี่ปุ่นเล่าให้ฟังว่า เริ่มต้นวงจากการที่พี่ๆ ไปดูหนังเรื่อง Across the Universe ซึ่งนำเพลงของ The Beatles มารีอะเรนจ์เพื่อประกอบหนังแล้วรู้สึกคันไม้คันมืออยากเล่นดนตรี จึงชักชวนเพื่อนใกล้ตัวที่คอเดียวกันมาตั้งวง 'นั่งเล่น'
พี่ๆ ทุกคนนับเป็นรุ่นใหญ่ของวงการดนตรี เป็นโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลงเบื้องหลังเพลงดังศิลปินดังมานับไม่ถ้วน พอมาทำเพลงกันเองก็นำเนื้อหาและแนวเพลงที่อยากทำมาทำกันโดยไม่ได้คาดหวังว่าเพลงจะต้องฮิตติดชาร์จ "เราอยากเล่าเนื้อหาแบบนี้" พี่ๆ ว่างั้น
พี่เป๋า-นักร้องนำเสียงแหบเสน่ห์บอกว่า "เราทำเพลงกันเพื่อความสุข สมาชิกในวงก็ชวนคนที่คบหากันอยู่มารวมตัวกัน เป้าหมายมันต่างไปจากตอนหนุ่มๆ" ผมถามว่าเปลี่ยนไปอย่างไร พี่เป๋าตอบ "ถ้าเป็นตอนหนุ่มเราจะอยากเล่นเพลงยากๆ เล่นให้เก่ง ถ้ารวมวงเราคงอยากได้คนเก่งมาเล่น สมมุติถ้ามีมือกลองอยู่ แล้วดันไปเจอคนเก่งกว่า เราก็จะอยากเปลี่ยนมือกลอง แต่เดี๋ยวนี้เราไม่ได้เลือกที่คนเก่งแล้ว"
"แล้วเลือกที่อะไรครับ" ผมสงสัย พี่เป๋ายิ้มใจดีแล้วตอบว่า "เลือกคนที่เข้าใจกัน เล่นด้วยกันแล้วสบายใจ" ผมนึกถึงเพลงของวงนั่งเล่นซึ่งบรรเลงออกมาอย่างมีความสุข รากฐานของมันคือความกลมกลืนของคนในวงที่สอดประสานเป็นหนึ่งเดียว
...
2
เมื่อวานนี้ ได้คุยกับพี่วู้ดดี้-ธนพล ศิริธนชัย ผู้บริหารแห่งบริษัทเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ผมถามพี่วู้ดดี้ว่า มาถึงจุดที่ประสบความสำเร็จมากขนาดนี้ ทำงานมาถึงวัยนี้แล้ว ยังมีเป้าหมายอะไรอีกไหม
พี่วู้ดดี้ให้แง่คิดที่น่าสนใจมาก "ผมไม่ได้มีเป้าหมายอะไรล่วงหน้ามากมาย แต่ต้องทำหน้าที่ตัวเองให้ดี พอคุณทำงานไปเรื่อยๆ มีประสบการณ์มากขึ้นเรื่อยๆ คุณอาจเข้าใจว่าความเก่งไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด แต่การที่คุณสามารถร่วมงานกับคนอื่นได้ดี ทั้งเจ้านาย ลูกน้อง ทีม เป็นสิ่งสำคัญกว่า คนเก่งบางคนไม่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานเพราะทำงานร่วมกับคนอื่นไม่ได้"
ฟังคำตอบของพี่วู้ดดี้แล้วผมนึกถึงคำพูดของพี่เป๋า เพลงจะเพราะนั้นต้องอาศัยคนบางแบบที่ไม่ใช่มีฝีมือสูงสุด หากยังต้องมีหัวใจที่จะสอดประสานฝีมือตัวเองให้กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับฝีมือของคนอื่นด้วย เพราะเวลาฟังเพลงเราไม่ได้ฟัง 'ฝีมือ' ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เราฟังการประสานฝีมือกัน -- ทีมทำงานในองค์กรต่างๆ ก็เป็นเช่นนั้น
...
3
ในภาษาของเผ่าอเมริกันพื้นเมืองอย่างชาวเชอโรกีไม่มีคำว่า 'ความรัก' มีแต่คำว่า 'ความเข้าใจ' หากเขาเข้าใจผู้ใด นั่นแสดงถึงความรักด้วย
ดนตรี ความเข้าใจ ความรัก และความไพเราะ
บางสิ่งที่ผู้อาวุโสมากประสบการณ์ตกผลึกผ่านช่วงเวลายาวนานของชีวิตที่ในวัยหนุ่มสาวเรามักโฟกัสที่ 'ความเก่ง' ของตัวเองมาโดยตลอด
แท้จริงแล้ว วงดนตรีที่เล่นเพลงเพราะนั้นเกิดจากเพื่อนร่วมวงที่เข้าใจกัน
การทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดี นับเป็น 'ฝีมือ' แบบหนึ่ง
#นิ้วกลม
#Roundfinger